วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Sword Art Online Vol.3 Ch.2 100%


   ดวงจันทร์เต็มดวงขนาดใหญ่อยู่บนท้องฟ้าที่ไม่มีเมฆ ด้านล่างคือป่าสี น้ำเงิน-เขียว สะท้อนแสงอยู่ใต้ดวงจันทร์

   กลางคืนของ ALfheim นั้นสั้นมาก แต่ยังมีเวลาก่อนฟ้าสาง โดยปกติแล้วป่าที่มืดมิดนั้นเป็นสาเหตุของความกังวล แต่ความมืดมิดนี้ก็เริ่มที่จะหายไป

   ไลฟาที่ซ่อนอยู่ในร่มเงาต้นไม้ยักษ์ เธอเงยขึ้นมองไปยังดวงดาวบนท้องฟ้า เมื่อไม่นานนี้มีการแสดงผลที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า เธอลดเสียงของเธอลงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เธอพูดกับเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ใกล้ๆกับเธอ "เมื่อปีกของนายฟื้นตัวเสร็จเมื่อไหร่ พวกเราจะออกไปทันที เตรียมตัวให้พร้อม"

"อ่า-แต่ฉันยังมึนๆอยู่เลย..."

คู่หูของเธอตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยเต็มใจ

"นายยังคงรู้สึกป่วย? นายไม่ละอายตัวเองบ้างรึไง? นายควรที่จะใช้มันนะ"

"ถึงเธอจะพูดอย่างนั้น สิ่งที่น่ากลัวก็คือสิ่งน่ากลัวอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ..."

ไลฟาถอนหายใจด้วยความผิดหวัง



   ผู้เล่นวัยรุ่นที่อยู่ต้นไม้ถัดไปชื่อรีคอน แถมยังเป็นเพื่อนไลฟาในชีวิตจริงอีกด้วย พวกเขาได้เริ่มเล่น ALO - ALfheim ONLINE - ด้วยกัน จะพูดอีกอย่างก็คือเขาและไลฟาได้เล่นเกมนี้มาเกือบปี อย่างไรก็ตามไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานซักแค่ไหน Recon ก็ยังไม่สามารถเอาชนะความรู้สึกวิงเวียนศีรษะขณะบินได้ ใน ALO ความแข็งแรงในการบินสำหรับการสู้รบบนอากาศเป็นเรื่องสำคัญมากทีเดียว หลังจากที่เขาโดนรุมประมาณ 2 คน เขาก็ถูกกำจัดได้อย่างง่ายดาย แล้วนี่เองที่ทำให้เขาดูไม่ค่อยหน้าเชื่อถือ

   แม้ว่ารีคอนจะเป็นเช่นนี้ แต่ไลฟาก็ไม่ได้เกลียดส่วนนี้ของเขา หรือจะพูดได้ว่าเขาเหมือนเป็น 'น้องชาย' ของเธอ ร่างกายของเขาดูค่อนข้างอ่อนปวกเปียก มีผมสีเขียวออกเหลือง มีหูยาวชี้ลงดิน และการแสดงสีหน้าของเขา เมื่อคุณมองดูเขา คุณก็จะคิดว่าเขาเหมือนจะร้องไห้ แม้ว่ามันเป็นการสุ่มตัวละครให้ใกล้เคียงกับรูปแบบความเป็นจริง เมื่อครั้งแรกที่ไลฟาเห็นเขา เธอแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่

   สำหรับรีคอนมันก็โอเค ไลฟานั้นมีหน้าตาที่เหมือนที่เหมือนกับความเป็นจริงมากเกินไป เธออยู่เผ่าSylph(พวกแฟรี่ที่มีกปีกแบบผีเสื้อ) เธอมีคิ้วหนามาก มีตาที่สวย และกระดูกร่างกายของเธอค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับพวกคนในเผ่าพันธุ์เดียวกัน

   แรกเริ่มเดิมทีนั้นเธออยากเป็นเผ่าที่ «สง่างาม» อยู่แล้ว ไม่แค่มันจะรักษาหน้าตาเดิมของเธอเป็นอย่างดีแล้ว เธอคิดว่ามันยังดูน่ารักอีกด้วย อย่างไรก็ตามสำหรับเธอนั้นโชคดีมาก หลายๆคนไม่ได้โชคดีแบบนี้และพวกเขาพึงพอใจกับการชำระเงินเพิ่มเติมเพื่อสร้างตัวละครของพวกเขา เมื่อเทียบกับพวกเขาไรฟาไม่จำเป็นต้องบ่นอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

   การชำระเงินเพิ่มเติมนั้นไม่ได้ส่งผลการเพิ่มประสิทธิภาพใดๆกับตัวละครเลย แต่รีคอนเล่นด้วยดวงตาของเขา เขาเล่นเพื่อความสนุก เขาคิดว่าพวกนั้นถูกปิดกั้นในเรื่องความสมดุล

   ไลฟาจับเกราะด้านหลังของรีคอนและดึงขึ้น พอมองไปที่ปีกทั้งสี่ของเขา ก็พบว่ามีแสงระยิบระยับสีเขียวรายล้อมรอบปีก นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาพร้อมที่จะบินอีกครั้ง

"เอาละ ตอนนี้นายสามารถบินได้อีกครั้งแล้ว มันถึงเวลาที่จะต้องออกจากป่าแห่งนี้แล้ว"

"เอ๋~ เราคงต้องโดนไล่อีกครั้งแน่นอน รออีกนิดนึงเหอะน้า~"

"อย่ามาตลกนะยะ! มีแค่ Salamander ที่เก่งๆแค่คนเดียว ถ้าเราระวังดีๆละก็ เราจะไม่ถูกเจอ ยกเว้นซะแต่เราบินไว้สู้บนอากาศอีกครั้ง ดังนั้นเราก็แค่กัดฟันพุ่งและบินออกไป!"

"โอ้ววว..."

   รีคอนตอบอย่างไม่เต็มใจ และยกแขนซ้ายขึ้นบนอากาศ จอยสติ๊กโปร่งแสงใช้สำหรับควบคุมการบินบนอากาศปรากฏขึ้นบนมือของเขา  เขาจับลูกบอลเล็กๆ สิ่งนี้เป็นตัวช่วยในการควบคุมการบินของ ALO รีคอนใช้มันสำหรับควบคุมปีกของเขา ปีกของเขาเริ่มเติบโตและสดใสขึ้น

   หลังจากที่ไรฟาได้เห็นเธอก็เริ่มกางปีกตัวเอง และกระพือปีกซัก 2-3 ครั้ง เธอไม่ได้ใช้จอยสติ๊กควบคุม นี่คือทักษะระดับสูงเรียกว่า «Voluntary Flight» นี่เป็นหลักฐานว่าเธอคือผู่เล่นระดับ first class ในบรรดานักรบของเกม ALO

"เยี่ยม! งั้นเราออกไปจากที่นี่กัน!!" ไรฟากระซิบ

   เมื่อปีกของเธอกางพร้อมเต็มที่แล้ว เธอเตะพื้นแล้วก็บินมุ่งหน้าไปยังดวงจันทร์ เธอเริ่มมองเห็นทิวทัศน์กว้างมากขึ้น จนกระทั่งเธอเห็นทั่ว ALfheim เธอรู้สึกดีมาก มันเหมือนกับว่าเธอได้ท่องทั่วไปบนฟ้าได้อย่างเสรี

"เอ่อ..."

   เธอบินสูงขึ้นไปเรื่อยๆพร้อมกับเสียงร้องแห่งความสุข ตอนนี้ไม่มีสิ่งอื่นมาแทนที่ความรู้สึกเธอได้ เธอปลดปล่อยความรู้สึกออกมา ตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้วมนุษย์นั้นปราถนาที่จะบินได้เหมือนนก สุดท้ายมันก็กลายเป็นจริงในโลกแฟนตาซีแห่งนี้

   จะหมดเวลาการบินเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับค่าประสบการณ์ ถ้าต้องการบินตลอดตามใจตัวเองจำเป็นต้องเสียเงินนิดหน่อย

   ในขั้นต้นความปราถนาแรกของผู้เล่นนั้นคือการแข่งขันกันใน ALfheim เพื่อไปถึงยอดของ «Yggdrasil» ก่อนที่จะเข้าการแข่งขันอื่นๆ และเข้าไปยังเมืองแห่งนภาในตำนาน หนึ่งในนั้นจะได้กลายเป็นแฟรี่ที่แท้จริง «ALF» กำจัดขีดกำจัดในการบิน และกลายเป็นผู้ปกครองท้องฟ้าที่ไม่สิ้นสุดอย่างแท้จริง

ไลฟามีความต้องการแรร์ไอเทมหรือเพิ่มสถานะของเธอ นั่นเหตุผลหนึ่งเดียวในการต่อสู้ของเธอ

   เธอใช้ปีกที่เหมือนกระจกของเธอมุ่งหน้าไปยังดวงจันทร์ทอง อนุภาคที่ส่องแสงกระจายอยู่เบื้องหลังเธอ เหมือนกับดาวหางสีเขียวที่ลากไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน


"ไล-ไลฟาจางงง~ รอออออด้วย~"

   เสียงอ่อนแอจากด้านล่างดึงเธอกลับสู่ความเป็นจริง เป็นหยุดและมองลงไป รีคอนกำตัวคอนโทรลเลอร์ไว้แน่น เขาพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะไล่ตามเธอไป ความเร็วสูงของการบินจะค่อนข้างต่ำเมื่อใช้ระบบช่วยเหลือ และถ้าไลฟาบินอย่างเอาจริงเอาจัง พนันได้เลยว่าเธอต้องทิ้งห่างรีคอนไกลโขเลย

"เร็วๆซิ! พยายามให้มากกว่านี้!"

   ไลฟากางปีกของเธอ และกระพือมันเบาๆขณะที่รอรีคอน เธอยกหัวมองสภาพแวดล้อมให้ไกลที่สุดของทะเลของต้นไม้ เธอมองไปที่ Yggdrasil(หลังจากนี้จะของเรียกมันว่าเย็คดาซิว) สูงตระหง่านตาในความมืด จากจุดนี้ระยะทางที่จะไปถึงดินแดนของเหล่าซิวฟ(ถ้าอ่านยากก็เรียกดินแดนแห่งอรชรก็ได้) ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตนเอง

   เมื่อรีคอนบินขึึ้นมาสูงกับจุดเดียวกันแล้ว ไลฟาปรับความเร็วในการบินของเธอให้เท่ากันกับรีคอน เพื่อจะได้บินด้วยกันได้

รีคอนบินข้างๆเธอ แล้วแสดงคำพูดออกจากใจ "สูง ไม่คิดว่ามันสูงเกินไปใช่ไหม?"

"นายไม่มีความรู้สึกชื่นชอบที่สูงๆบ้างเหรอ? ถ้านายรู้สึกเหนื่อยพวกเราก็สามารถร่อนได้นะ"

"เมื่อเธอบินเมื่อไหร่ บุคลิกที่สองของเธอจะปรากฎ..."

"ว่าไงนะ?"

"ปะ-เปล่า ไม่มีอะไร!"

   รีคอนรีบหุบปากเงียบในขณะที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังเขตทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ ALfheim ที่นั่นคือ ดินแดนของเหล่าซิวฟ


   ก่อนหน้านี้ในวันนี้ไลฟาได้เข้าปาตี้ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันอีก 4 คน และเดินทางไปยังดันเจี้ยนที่อยู่ใจกลางดินแดนตรงทิศตะวันออกเฉียงเหนือ โชคดีที่พวกเขาสามารถล่ามอนสเตอร์ได้โดยไม่ต้องเผชิญหน้ากับปาตี้ตี้อื่นๆ นั่นเป็นช่วงเวลาที่มีค่ามาก และพวกเขาก็ได้เงินกับไอเท็มมามากมาย เมื่อพวกเขาจะเตรียมตัวกลับไปยังเมืองของเหล่าซิวฟ ทันใดนั้นพวกเขาก็ถูกซุ้มโจมตีโดยปาตี้ของ Salamander ที่มีจำนวนอยู่ 8 คน

   การต่อสู้กันระหว่างเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกันถือเป็นเรื่องธรรมดามากใน ALO แต่ค่อนข้างหาได้ยากมากที่จะมีคนผู้เล่นใหญ่มาเพื่อร่วมกันปล้นผู้เล่นคนอื่นๆ สำหรับวันนี้เป็นเรื่องที่ประหลาดใจมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสังเกตุดีๆแล้วมันเป็นช่วงบ่ายในโลกแห่งความจริง พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าจะโดนโจมตีโดยเฉพาะอย่างยิ่งการโดนลอบโจมตีจากกลุ่มใหญ่ๆ... พวกเขาประมาทเกินไป

   ขณะที่พวกเขาทั้ง 2 กำลังบินหนีได้ปะทะแบบ team battle บนอากาศกลางคันกับ«AIR RAIDs» ระหว่างนั้นทั้ง 2 ฝ่ายได้หายไป 3 คน จากนั้นจำนวนของพวกเขาก็น้อยลงเรื่อยๆ แล้วตอนนี้ก็เหลือแค่ไลฟาและรีคอนที่ถูกทิ้ง การใช้ประโยชน์จากความจริงที่ว่าเผ่าซิวฟ(จากนี้ขอใช้แทนSylphs) บินได้รวดเร็วกว่าเผ่าซาลามันเดอร์(ใช้แทน salamander) หวกเขาต้องการหลีกเลี่ยงจากการเจอตัวกับพวกนั้น แล้วรีบมุ่งหน้าไปยังดินแดนของซิวฟ แต่เนื่องจากการต่อสู้ที่วิงเวียนบนฟ้าติดต่อกัน 2 รอบ รีคอนเริ่มมึนหัวหนักมากขึ้นเรื่อยๆ และพวกเขาก็ไม่สามารถที่ไปถึงดินแดนของซิวฟได้ แต่พวกเขาก็ได้ซ่อนตัวอยู่ในป่าเพื่อให้รีคอนฟื้นปีกของเขา เช่นเดียวกับไลฟา เพื่อให้เธอผ่อนคลายจากความตึงเครียด และได้หันกลับไปป่าอยู่ที่ด้านหลังของเธอ

ทันใดนั้นก็มีลูกไฟสีส้มพุ่งออกมาจากต้นไม้สีเขียว

"รีคอนหลบ!" ไลฟาตะโกนแล้วแกว่งตัวไปทางซ้ายอย่างรวดเร็ว
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
   เอาละตอนนี้เรามาสรุปย่อๆกันจนถึงตอนที่อยู่ในอนิเมะตอนที่ 16 นะครับ จากที่พวกเราได้ดูกันไลฟากับรีคอนได้สู้กับพวกที่ยิงลูกไฟสีส้มออกมา แต่พอสู้ไปมารีคอนก็โดนจัดการ ทางไลฟาก็เสียเปรียบแล้วร่วงลงมาจากท้องฟ้า ถ้าเป็นในนิยายมันจะตัดตอนไปยังตอนที่คิริโตะร่วงลงมาที่ป่าแล้วก็พบกับยูอิ ฝึกบินอธิบายเรื่องสกิลประมาณว่า เกมนี้มันก็อปจาก SAO เกือบทุกอย่างมีฐานข้อมูลตัวเดียวกัน แต่ชื่อไอเท็มส่วนใหญ่กับสกิลบางตัว สิ่งไหนที่ใช้ไม่ได้มันจะขึ้นตัว ? นี้ออกมา แล้วก็ฝึกบินเบื้องต้น ฝึกบินไปบินมาก็พบกับการต่อสู้ของรีคอนกับไลฟาตอนอยู่บนฟ้า ตอนที่ไลฟาตกลงมาคิริโตะก็ได้ดูไอเท็มพบว่ามีดาบเริ่มต้นอยู่ก็เลยนำมันออกมาแล้วลองเหวี่ยงดาบดู เขาพูดว่ามันเบามากเกินไป แล้วถามยูอิว่าคนที่ตกลงจากท้องฟ้าอยู่ที่ไหน ยูอิก็บอกสถานที่ไลฟาตกลงมาแล้วรีบมุ่งหน้าไปทางจุดที่ไลฟาตก เจ้าคิริโตะมันก็โชว์เมพดังภาพนี้


เอาละจบสรุปเพียงเท่านี้เรามาอ่านนิยายล่วงหน้าก่อนดูอนิเมะกันก่อนเถอะ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
   วิธีการโจมตีของ ALO นั้นไม่ซับซ้อน มันขึ้นอยู่กับปัจจัย 4 อย่าง: พลังค่าโจมตีของอาวุธ, จุดต่างๆที่โดนคู่ต่อสู้, ค่าความเร็ว และค่าป้องกันที่ฝ่ายตรงข้ามสวมใส่ ในสถานการณ์นี้ค่าพลังของอาวุธเขาคือเกือบต่ำสุดในบรรดาอาวุธทั้งหมด ในขณะที่ค่าพลังป้องกันของซาลามันเดอร์พวกนั้นอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ค่าโจมตีของเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นของจริง และความเร็วที่เหลือเชื่อ

   เด็กหนุ่มคนนั้นนั่งลงผ่อนคลายและเงยหน้าไปที่ผู้นำกลุ่มซาลามันเดอร์ที่โดนเด็กหนุ่มคนนั้นกำจัดซึ่งกำลังลอยอยู่บนอากาศ ดาบของเขาพิงอยู่ที่ไหล่ เด็กหนุ่มอ้าปากแล้วพูดว่า:

"นายอยากจะลองของไหมครับ?"

   คำพูดของเด็กหนุ่มคนนั้นทำให้บรรยากาศตกอยู่ในสภาวะตึงเครียดโดยสมบูรณ์ แล้วซาลามันเดอร์คนนั้นก็ยิ้ม

"ฉันไม่โอกาศที่จะชนะเลย ลืมมันซะเถอะ ฉันจะให้ไอเทมนายถ้านายต้องการพวกมัน ทักษะเวทมนต์ของฉันมีเกือบ 900 และติดโทษประหาญชีวิต ถ้านายจัดการฉันมันจะทำให้งานฉันเสีย"

"นายเป็นคนตรงๆดีนะ"

เด็กหนุ่มหัวเราะสั้นๆแล้วหันหัวจ้องมองไปที่ไลฟา

"เธอน่ะ ผู้คนนั้นอะเธอต้องการอะไร? ถ้าเธอต้องการสู้กับเขา ผมก็จะไม่รบกวนเธอนะ"

   ความสับสนวุ่นวายต่างๆในตัวเธอหายไปหมดอย่างปลิดทิ้งแล้วไลฟาก็หัวเราะลั่น เขาเป็นคนประเภทชอบต่อสู้กับทุกคนในสนามรบและยุติสปิริตในการสู้ของทุกคนได้

"ก็ดีนะ ครั้งหน้าฉันต้องชนะแน่ๆ คุณซาลามันเดอร์"

"มั่นใจได้เลย ถ้าสู้กับเธอแบบ 1 ต่อ 1 ฉันแพ้แน่ๆ"

   หลังจากที่เขาพูดเสร็จซาลามันเดอร์คนนั้นก็กางผีกของเขาแล้วบินหนีไป แล้วทิ้งแสงระยิบระยับสีแดงเอาไว้ บินทะลุพุ่มไม้ข้างบนหายไปบนท้องฟ้าที่มืดมน ที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็มีแค่ไลฟากับเด็กหนุ่มชุดดำอยู่ที่โล่งที่มีสีหน่อยๆ นาทีต่อมาพวกเขาก็หายไป

ขณะที่เธอมองไปทางเด็กหนุ่ม เธอพูดอย่างเกร็งขึ้นมาว่า

"แล้วฉันต้องทำไรดี? ฉันควรต้องขอบคุณ? ฉันควรวิ่งหนี? หรือพวกเราควรสู้กัน"

เขาเหวี่ยงดาบของเขาไปทางซ้ายและขวา แล้วใส่มันเข้าไปที่ใส่ดาบข้างหลัง พร้อมกับเสียงใส่ดาบ

"อา สำหรับผมมันอาจดูเหมือนอัศวินขี่ม้าขาวไปช่วยเจ้าหญิงที่กำลังถูกทำร้าย"

เขาหัวเราะพร้อมกับรอยยิ้ม

"แล้วด้วยความกตัญญูของเจ้าหญิง เธอก็ร้องไห้วิ่งเข้ามากอดเจ้าชาย"

"นายบ้าปะเนี่ย?"

ไลฟาร้องออกโดยไม่ตั้ง ใบหน้าของเธอเริ่มแดง

"ฉันคงต้องสู้กับนายแล้วละ!"

"ฮ่าๆ ล้อเล่นน่า ล้อเล่น"

   ขณะที่มองไปที่เด็กหนุ่มที่กำลังหัวเราะอย่างมีความสุข ไลฟากัดฟันของเธอด้วยความโกรธ ขณะที่เธอเขม่นเขาเธอก็ได้ยินเสียงๆหนึ่ง

"ใช่เลย หนูไม่ให้ทำอย่างนั้นแน่ๆ"

   มันเป็นเสียงของเด็กสาว ไลฟามองไปรอบๆก็ไม่พบอะไรเลยแม้กระทั่งเงา แล้วไลฟามองไปที่เด็กหนุ่มที่กำลังทำท่าลนๆและพูดว่า

"ฮะ-เฮ้ ฉันบอกเธอไปแล้วนะว่าอย่าออกมา!"

   ไลฟาหันมองไปที่กระเป๋าหน้าอกของเด็กหนุ่ม แล้วก็มีอะไรบางอย่างที่ระยิบระยับกระโดดอกมาจากกระเป๋า สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กบินไปที่ข้างหน้าเขาทำเสียงหึ่งๆเบาๆ

"มีแค่ม่าม้าเท่านั้นที่ติดกับปาป๋าได้!"

"ปะ-ปาป๋า!?"

   ไลฟาเคลื่อนที่เข้าไปใกล้อีกเล็กน้อย เพื่อที่จะดูแฟรี่ขนาดพอเหมาะมือ มันคือพิกซี่ผู้ชี้ทางที่สามารถเรียกมันออกมาได้จากหน้าต่างช่วยเหลือ แต่ในกรณีนั้นมันควรตอบได้แค่คำถามเบสิกๆที่เกี่ยวข้องกับเกมนี้ได้เท่านั้น

   ไลฟาลืมเรื่องที่ระแวงเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้น เธอจ้องมองพิจารณาพิกซี่ตนนั้นอย่างตั้งใจเพื่อดูว่ามันคืออะไร

"อ๋า ไม่จริงน่ามันคือ..."

   เด็กหนุ่มรีบรวบมือทั้ง 2 ห่อพิกซี่ แล้วนำมันเข้าใกล้เขา พร้อมกับยิ้มแหยๆ ไลฟามองพิกซี่ที่อยู่ในมือเด็กหนุ่มแล้วเอ่ยปากถามขึ้นมาว่า:

"นั่นใช่ «พิกซี่ส่วนตัว» รึเปล่า?"

"หือ?"

"มันเป็นโปรโมชั่นในช่วงที่มีเกมวางจำหน่ายครั้งแรก จะมีการจับฉลากขึ้นมาแล้วผู้ชนะจะได้พิกซี่ส่วนตัว นี่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย"

"อ๋าาา อ่อยอ้ะ(ปล่อยนะ)"

พิกซี่เริ่มที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ถูกขัดจังหวะเมื่อเด็กหนุ่มเอานิ้ววางบนปากของเธอ

"ใช่ๆเป็นมันนั่นแหละ ผมโชคดีในการจับฉลาก"

"ก็ว่างั้นละ เฮ้อ..."

ไลฟามองไปที่เด็กหนุ่มเผ่าสปริกแกน (Spriggan) อีกครั้ง สังเกตุเขาตั้งแต่บนลงล่าง

"มะ-มีอะไร?"

"นายคนปริศนา เห็นได้ชัดว่าคุณเริ่มเล่นเกมนี้ตั้งแต่มันออกมาครั้งแรก แต่นายใช้ของเริ่มต้น หรือไม่งั้นงั้นก็คงเป็นว่านายแข็งแรงสุดๆ"

"เอ่อเรื่องนี้... ที่จริงแล้วแอคเคาต์ผม แต่ผมเพิ่งเล่มเกมนี้พอดีว่าผมมัวแต่เล่นเกมแนว VRMMO อื่นเป็นเวลานานเท่านั้นเอง"

"แน่นะ?"

   ไลฟารู้สึกว่ามันอาจเป็นไปได้เพราะว่าเขาคุ่นเคยกับ Amusphere เพราะเขาได้เล่นเกมมามากมาย แล้วมันอาจจะเป็นไปได้ว่าเขาสามารถที่จะมีความเร็วได้ถึงเพียงนี้

"ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ เห็นได้ชัดว่านายอยู่เผ่าสปริกแกน แล้วทำไมนายถึงมาอยู่นี่? ดินแดนของเผ่านายอยู่ทางทิศตะวันออกที่ห่างไกลไม่ใช่เหรอ"

"ผม... ผมหลงทาง"

"หลงทาง??"

คำตอบที่หมดหนทางของเขา ทำให้ไลฟาตะโกนออกไปอย่างงงๆ

"ถ้าไม่รู้เรื่องทิศทางมันก็้องมีลิมิตกันบ้าง... นายแปลกเกินไป"

   เธอหัวเราะขึ้นมาพร้อมกอดอกตัวเองเมื่อเธอเห็นสีหน้าตึงเครียดของเด็กหนุ่ม หลังจากนั้นไลฟาเก็บดาบของเธอกลับเข้าฝักและพูดว่า:

"เอาเถอๆ ยังไงก็ตามฉันต้องขอบคุณนาย ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้ ฉันชื่อว่าไลฟา"

"ส่วนผมชื่อคิริโตะ และเด็กคนนี้ชื่อยูอิ"

   เมื่อเด็กหนุ่มเปิดมือของเขา พิกซี่ก็บินแก้มป่องมาที่เธอพร้อมแสดงสีหน้าไม่ค่อยพอใจ เธอโค้งคำนับให้กับไลฟา จากนั้นก็บินไปที่ไหล่ของคิริโตะและนั่งลง

   ไลฟารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เธอรู้สึกอยากคุยกับชายที่ชื่อคิริโตะ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใดๆสำหรับเธอที่จะมีเพื่อนในโลกแห่งนี้ เพียงแต่เธอไม่ค่อยได้ที่จะสร้างความสัมพันธ์กับผู้เล่นคนอื่นๆ เขาดูไม่เหมือนคนเลว ไลฟาคิดในใจและพูดว่า:

"แล้วนายมีแผนไหมว่าอนนี้นายจะทำอะไร?"

"ตอนนี้ผมยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี"

"งั้น...เอ่อ ถ้างั้นให้ฉันเลี้ยงเครื่องดื่มเป็นการขอบคุณนะ?"

   หลังจากที่ได้ยินเมื่อกี้เด็กหนุ่มที่ชื่อคิริโตะหัวเราะพร้อมกับรอยยิ้มบนหน้าของเขา ไลฟามองที่รอยยิ้มเขา และคิดว่ามันเป็นรอยยิ้มจากหัวใจ คนที่สามารถหัวเราะอย่างเปิดเผยและแสดงอารมณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่หายากในโลกเสมือน

"นั่นทำให้ผมรู้สึกดีนะ อันที่จริงผมกำลังมองหาคนที่สามารถตอบคำถามผมในหลายๆคำถามได้"

"ในหลายๆคำถาม?"

"สิ่งที่เกี่ยวกับโลกนี้... โดยเฉพาะอย่างยิ่ง..."

เขาหุบรอยยิ้มของเขาแล้วหันไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

"สิ่งที่เกี่ยวกับต้นไม้ต้นนั้น"

"ที่ World Tree นั่นเหรอ? มั่นใจได้เลยเห็นอย่างนี้ฉันก็เป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์มามากมาย ดูนั่นนะถึงแม้ว่ามันจะไกลไปหน่อย มันจะมีหมู่บ้านธรรมดาๆแห่งหนึ่งอยู่ทางเหนือ บินไปที่นั่นล่ะ"

"ไปทางเมืองซิวฟไม่ใกล้กว่าเหรอ?"

ไลฟาอึ้งเล็กน้อยและมองไปที่หน้าของคิริโตะก่อนจะตอบ...

"นั่นมันก็ถูก... นายไม่รู้อะไรจริงๆเหรอเนี่ย? ที่นั่นคือดินแดนของซิวฟ"

"มีปัญหาอะไรเหรอ?"

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของคิริโตะ ไลฟาก็พยายามที่จะเรียบเรียงคำพูด

"...ปัญหา... นายก็ควรเรียกมันอย่างนั้นล่ะ เพราะมันเป็นดินแดนของซิวฟ นายก็จะไม่สามารถโจมตีใครในเมืองได้ แต่ในทางกลับกันซิวฟที่อยู่ในเมืองจะสามารถโจมตีนายได้"

"เฮ้อ อย่างนี้นี่เอง แต่คนอื่นๆจะไม่ทำร้ายผมถ้าผมไปกับไลฟาซังใช่ป่ะ ผมอยากไปดินแดนของซิวฟ ได้ยินมาว่ามันสวยงามมาก"

"เรียกไลฟาเฉยๆก็พอ นายเป็นคนที่แปลกดีนะ ก็... ไม่ได้คัดค้านอะไรหรอกนะ แต่ฉันไม่สามารถรับประกันคามปลอดภัยให้นายได้"

   ไลฟายักไหล่ตอบตอบ อยากไปดินแดนของซิวฟมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอก เผ่าสปริกแกนค่อนข้างหายากในแถวนี้ซะด้วย พากเขาไปด้วยอาจเจอเรื่องตื่นเต้น ไลฟาคิดในใจในเรื่องวุ่นๆอยู่เต็มหัว

"ดีถ้าอย่างนั้นพวกเราจะบินไปที่ Sylvain เดี๋ยวจะไม่ว่างเล่นแล้ว"

   ไลฟากล่าวขณะที่เธอตรวจสอบหน้าต่างเพื่อดูเวลาในโลกจริง ตอนนี้ 4 โมงเย็นแป๊ะ เธอไม่สามารถ "dive(ประมาณว่าเล่น)"ได้นาน

   ไลฟาในตอนนี้ได้ฟื้นพลังของปีกเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว เธอค่อยๆกลางปีกอย่างนุ่มนวลแล้วกระพือมัน คิริโตะเอียงหัวมองไปอย่างสงสัยและถาม

"ไลฟามันเป็นไปได้ไหมที่จะควบคุมปีกโดยไม่ต้องใช้ตัวคอลโทรนเลอร์?"

"เอ๋ ได้ซิ ถามอะไรงั้นเหรอ?"

"ผมแค่เพิ่งรู้วิธีการควบคุมการบินเมื่อไม่นานนี้"

คิริโตะยกมือซ้ายของเขาขึ้นเหมือนพยายามจะคลำหาอะไรบางอย่าง

"เคล็ดลับของการบินด้วยตัวเองนั้น คนอื่นๆส่วนใหญ่เขาจะทำแบบนี้กัน ขั้นแรกอย่าเอาตัวคอลโทรนเลอร์ออกมา จากนั้นก็หมุนตัวหันหลังมาทางฉันนี่"

"ไงต่อ?"

   คิริโตะหันตัวของเขาเป็นครึ่งวงกลม ไหล่ของเขาไม่กว้างเท่าไร ลิฟา(เปลี่ยนจากไลฟาเป็นลิฟานะครับ)ใช้นิ้วชี้สัมผัสเบาๆตรงบนต้นไหล่ของเขา พิกซี่ของเขาดูอย่างตั้งอกตั้งใจบนไหล่ของเขา

"จำจุดที่ฉันสัมผัสเอาไว้"

"โอเค"

"ถึงมันจะเรียกว่าการบินด้วยตนเองก็เถอะ แต่มันก็ไม่ได้ใช้เพียงแค่จินตนาการเท่านั้น สิ่งที่นายต้องเรียนรู้คือสมมุติถึงกระดูกและกล้ามเนื้อที่กลายเป็นปีกนาย จากนั้นก็เรียนรู้ที่จะขยับมัน"

"สมมุติว่ามีกระดูก... สมมุติถึงกล้ามเนื้อ"

   คิริโตะพูดทวนซ้ำอย่างเบาๆ ในขณะที่เขาพูดไหล่ของเขาเริ่มกระตุก ปีกสีเทาก็ผลักออกมาจากเสื้อของเขาตรงจุดที่ลิฟาสัมผัส ตอนแรกพวกมันค่อยๆขยับอย่างเชื่องช้า แต่ต่อมาพวกมันเริ่มขยับพร้อมๆกัน ตอนนี้ปีกของเขาขยับพร้อมเพรียงกันเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว

"โอ้อย่างนั้นแหละ ตอนแรกขยับไหล่และกล้ามเนื้อของนายเพื่อเข้าใจความรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของปีก"

   เมื่อเธอพูดเช่นนั้นกล้ามเนื้อด้านหลังของเขาเริ่มตอบรับอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันนั้นปีกของเขาเริ่มกระพือและลิฟาก็ได้ยินเสียงการกระพือของปีก

"นั่นแหละ! แล้วตอนนี้ก็ทำให้มันแรงขึ้นอีก"

"อืมๆๆ"

   ไลฟากางแขนของตัวเธอให้ไกลสุดเท่าที่จะทำได้ แล้วทิ้งมือของเธอไปที่ด้านหลังของคิริโตะจนปีกของเขามีแรงกระพือจนเพียงพอ ในขณะนั้นเองลิฟาได้ผลักหลังของคิริโตะด้วยแรงทั้งหมดที่มี

"โว้ว!"

สปริกแกนพุ่งไปบนอากาศเหมือนจรวด

"โอ้... โอ้... โอ้... ว้าว!"

   ร่างกายของคิริโตะเริ่มเล็กลงเรื่อยๆ เสียงร้องของเขานั้นไกลออกไปเรื่อยๆเกินกว่าจะได้ยินอย่างรวดเร็วพร้อมกับใบไม้ที่ปลิวว่อน เขาหายไปบนยอดต้นไม้อย่างรวดเร็ว

"......"

ลิฟาย้ายสายตาของเธอมองไปที่พิกซี่ ซึ่งหลุดออกมาจากไหล่ของคิริโตะ

"แย่แล้ว"

"ปะป๋า...!"

   พวกเธอออกตัวพร้อมกันเพื่อไล่ตามคิริโตะ หลังจากที่พวกเธอออกมาจากต้นมาที่ทะเล พวกเธอค้นหาอย่างตัวเขาละเอียดบนท้องฟ้ายามดึก ในที่สุดก็พบตัวเขา เขาเคลื่อนที่อย่างมั่วซั่วไปทางขวาภายใต้เงาของดวงจันทร์สีทอง

"โอยๆๆๆๆๆ ว๋าๆๆๆๆๆๆ....... ใครก็ได้ช่วยหยุดที!"

เสียงกรีดร้องอันหน้าสังเวชทำลายความเงียบในตอนกลางคืน และสะท้อนเสียงไปบนท้องฟ้าไม่สิ้นสุด

"...พรืดด"

ลิฟาและยูอิมองหน้ากัน และไม่สามารถที่จะกลั้นขำตนเองได้

"พรืดดดดด... ฮะ... ฮะๆๆๆ...!"

"ขอโทษค่ะปะป๋า มันตลกมาก~~~"

   ขณะที่พวกเขาเธอกำลังบินข้างกันบนอากาศ พวกเธอทั้งคู่ก็ได้หัวเราะพร้อมกุมท้องไปด้วย เมื่อพวกเธอกำลังจะหยุดหัวเราะ พวกเธอก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของคิริโตะอีกครั้ง ทำให้พวกเธอหัวเราะแบบเป็นบ้าเป็นหลังอีกครั้ง

   ลิฟาจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เธอหัวเราะอย่างหนักนี้คือเมื่อไหร่ นี้คงต้องเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เธอมายังโลกนี้

   หลังจากที่หัวเราะมาได้สักพักก็ได้พุ่งไปคว้าคอเสื้อคิริโตะเพื่อให้เขาหยุดบิน และเพื่อจบการสอนเทคนิคการบินด้วยตนเอง สำหรับมือใหม่นั้นคิริโตะเป็นผู้ที่สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วมาก หลังจากเวลาผ่านไปได้ประมาณ 10 นาทีหลังจาการบรรยาย คิริโตะก็สามารถบินได้อย่างอิสระ

"โห... นี่มัน... ยอดไปเลย!"

คิริโตะตะโกนขึ้นขณะที่เขาบินและผาดโผนบนอากาศ

"ใช่ๆ เห็นด้วย!"

ลิฟาตอบพร้อมรอยยิ้ม

"อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูกเลย แบบว่ามันสุดยอดมาก! ผมต้องการที่จะบินแบบนี้ตลอดไป..."

"ใช่เลย!"

ลิฟาก็มีความสุขเช่นเดียวกัน เธอกระพือปีกบินคู่กันกับในวงบินเดียวกันกับคิริโตะ

"ไม่แฟร์อ่ะ... ขอไปด้วยคน!"

ยูอิจับและปรับตำแหน่งไปที่ตรงการของทั้งสอง

"นายควรฝึกลดการเคลื่อนไหวของหลังส่วนล่าง และส่วนกระดูกสะบักให้มากที่สุกเท่าที่จะเป็นไปได้ นายจะไม่สามารถที่จะแกว่งดาบได้ดีในการต่อสู้ทางอากาศ ถ้านายยังคงเคลื่อนไหวโดยไม่จำเป็นมากเกินไป เอาล่ะถ้าอย่างงั้นเราก็บินไปที่ Sylvain แบบนี้นะ ไปกันเลย"

   ลิฟาหันซ้ายหันขวาเพื่อหาทิศทางที่จะไป จากนั้นพวกเขาก็เริ่มแล่นผ่านบนป่า เธอเริ่มรู้สึกกังวลเธอกำลังจะบินเร็วเกินไปสำหรับมือใหม่เรื่องการบินอย่างคิริโตะ ดังนั้นเธอจึงลดสปีดของเธอในระดับที่คิริโตะเลยเธอไปนิดหน่อย เธอมองไปที่คิริโตะและได้ยินเขาพูดว่า:

"เราสามารถบินได้เร็วอีกหน่อย ถ้าเธอต้องการ"

"โฮะๆ"


   ลิฟายิ้มแบบน่ากลัวแล้วขณะเดียวกันเธอก็หุบปีกของเธอให้มุมแคบลงและเริ่มเร่งความเร็วขึ้นอย่างเฉียบพลัน คิริโตะได้ยินเสียงที่เกิดขึ้นโดยการกระพือปีกที่ถี่ขึ้นของเธอและเร่งความเร็วให้ได้เท่ากับเธอ ความดันอากาศของลมตีเข้ากับร่างกายเธอเพิ่มมากขึ้น และความเร็วของลมนั้นทำให้เธอได้ยินเสียงวู่วๆ

   น่าแปลกใช้สปีดถึง 70% จากความเร็วทั้งหมดที่มี และคิริโตะยังคงสามารถบินอยู่ข้างขวาเธอได้ คนส่วนใหญ่เมื่อพวกเขาเริ่มมีค่าสปีดใกล้ถึงจุดสูงสุดของที่ระบบตั้งไว้ พวกมือใหม่นั้นก็เริ่มจะมึนหัว หน้าตาหมองคล้ำ มันอาจเป็นความกดดันทางจิตวิทยาบางชนิด สำหรับคิริโตะที่สามารถเอาชนะความกดดันในการบินเที่ยวแรกของเขา... เขาจะต้องมีพลังใจที่ไม่ธรรมดา

   ลิฟาเม้มปากของเธอและเริ่มเร่งความเร็วถึงจุดสูงสุด เธอไม่เคยเร่งความเร็วถึงจุดสูงสุดมาก่อน ส่วนใหญ่เพราะว่าตามปกติแล้วไม่มีเพื่อนร่วมทีมของเธอคนใดสามารถตามความเร็วของเธอได้

   ตอนนี้เหล่าต้นไม้ที่อยู่ด้านล่างสายตาของเธอจะผ่านไปอย่างรวดเร็วอยู่เบื้องหลังของพวกเขา การกระพือปีกของซิวฟ ทำให้เกิดเสียงแหลมสูง ซึ่งผสมกับปีกของสปริกแกน ฟังแล้วมันเหมือนกับเสียงดนตรีในสายลมที่สวยงาม

"ฮ้า... เร็ว... ไปแล้ว! มันใช้การไม่ได้!"

ยูอิร้องขณะที่เธอมุดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อตรงอกของคิริโตะ คิริโตะและลิฟามองหน้ากันแล้วหัวเราะ

   เมื่อสังเกตุเห็นว่ากำลังจะถึงจุดสิ้นสุดของป่าและจุดที่เรืองแสงก็ปรากฏขึ้น จุดที่สว่างมากที่สุดมาจากหอคอยที่อยู่ใจกลาง นั่นคือสัญลักษณ์เมืองหลวงของเหล่าซิวฟ เมืองSylvian เป็นที่รู้จักกันในชื่อ "หอคอยแห่งสายลม" ในไม่ช้าพวกเราก็เข้าใกล้เมืองเรื่อยๆ และเริ่มเข้าใกล้ถนนสายหลัก สังเกตุเห็นได้เลยว่ามีผู้เล่นเข้า-ออกกันเป็นจำนวนมาก

"โอ้ เห็นแล้วๆ!"

คิริโตะกล่าวออกไปกลางสายลม

"พวกต้องลงจอดที่หอคอยกลางตรงนั้น โอะ!"

ลิฟาตระหนักถึงบางสิ่งจากใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเธอเริ่มเป็นสีหน้าปกติ

"คิริโตะคุงนายรู้วิธีลงจอดไหม?"

"..."

สีหน้าของคิริโตะเริ่มตึงเครียดและพูดว่า:

"ผมไม่รู้ต้องทำยังไง!"

"ประมาณว่า..."

ตอนนี้อีกแค่อึดใจเดียวก็ถึงที่ลงจอดแล้ว ตอนนี้ทัศนวิสัยมองเห็นแค่หอคอยขนาดใหญ่

"โทษทีนะ มันสายไปแล้วขอให้โชคดี"

   เมื่อเธอยิ้มที่สำนึกผิดแล้วเธอก็เริ่มชะลอความเร็วอย่างเฉียบพลันเพื่อลงจอด ลิฟากางปีกของเธอเพื่อเบรกอย่างเต็มกำลังและเหยียดเท้าไปข้างหน้าแล้วเริ่มกระบวนการลงจอด

"บ้าเอ้ย..."

สปริกแกนกรีดร้อง ลิฟาเฝ้าดูเขาที่กำลังชนพนังแล้วหวังว่าเขาจะรอดจากการลงจอดครั้งแรกนี้

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ตุบ!! เสียงนี้ทำให้อากาศสั่นสะเทือน



"โอย ลิฟาใจร้ายจังนะ การบินนี่ช่างน่ากลัวซะจริง ผมคงต้องปรับปรุงให้มากกว่านี้"

ที่ใจกลางของหอคอย คิริโตะกำลังลุกขึ้นนั่งบนตรงกลางเตียงดอกไม้ที่เขาชน

"ตาหนูมันหมุนได้..."

พิกซี่ที่นั่งอยู่บนไหล่ของเขานั้นกำลังโซเซและมึนหัว ลิฟาเท้าเอวหัวเราะและตอบกลับไป:

"นายมีความกระตือรือร้นมากเกินไป นายทำให้ฉันเซอไพรส์ที่นายยังมีชีวิตอยู่ ฉันคิดว่านายจะต้องตายแน่นอนแล้วซะอีก"

"ฮ้า มันมากเกินไป!"

   คิริโตะกระแทกกับกำแพงด้วยความเร็วสูงสุดทำที่ระบบเกมกำหนดไว้ แต่เขาสูญเสีย HP เพียงแค่เกือบครึ่งเท่านั้น อาจเป็นไปได้ว่าร่างกายเขาแข็งแรงตามธรรมชาติหรือคนแค่โชคดีเท่านั้น แต่ตัวเขานั้นมีความลึกลับอยู่มากมายสำหรับผู้เล่นมือใหม่

"โอเคๆ ฉันจะฮีลให้นาย"

   ลิฟายื่นแขนขวาของเธอออกมาแล้วร่ายเวทย์ฟื้นฟู แสงสีฟ้าแพร่กระจายออกมาจากฝ่ามือของเธอและค่อยลอยลงมาที่ตัวคิริโตะ

"โอ้เจ๋งดี งั้นนี่คงเป็นเวทย์มนต์"

ความอยากรู้อยากเห็นของคิริโตะ เขามองไปที่รอบๆตัวของเขาที่มีแสงสีฟ้าอ่อนคลุมอยู่เหมือนหิมะตก

"มีเพียงเผ่า อันดีน(Undine) เท่านั้นที่สามารถใช้เวทย์มนต์ประเภทฟื้นฟูระดับสูงได้ แต่นี่มันเป็นเวทมนต์ที่ขาดไม่ได้ นายควรจะเรียนรู้มัน"

"นั่นคือจุดอ่อนและจุดแข็งเรื่องเวทมนต์ของแต่ละเผ่าใช่ปะ? แล้วเผ่าสปริกแกนมีอะไรดีเป็นพิเศษล่ะ?"

"มีอยู่ 2 อย่าง:ข้อแรกคือความสามารถสนับสนุนในเรื่องตามหาสมบัติและเวทย์มนต์สร้างภาพมายา จึงเป็นเผ่าที่ไม่ได้มีความสามารถทางด้านการต่อสู้ เลยเป็นเผ่าที่นิยมน้อยที่สุด"

"อ่าาา... ผมควรทำการของผมให้ดี"

คิริโตะยักไหล่ของเขาและลุกขึ้นหันไปมองรอบเมือง

"โฮ่ นี่ซินะเมืองซิวฟ เป็นที่ๆสวยงามดี"

"ใช่ป่ะละ?"

ลิฟามองไปรอบเมืองของของเผ่าเธอ ที่เธออาศัยอยู่เป็นเวลานาน

« Sylvain » ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม «เมืองมรกต» เป็นชื่อที่ตั้งตามลักษณะเมือง

   หลังจากตรงนี้ไม่ขออธิบายต่อถ้าอยากอ่านต่อรอซื้อหนังสือแท้กันนะครับถ้ารอไม่ไหวก็ดู Sub Eng หรืออ่าน Eng นะครับ เพราะว่าวันที่ 29/10/55 ผมเปิดเทอมแล้ว เลยเป็นเรื่องยากมากที่จะแปลต่อ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะขอแปลก่อนที่จะ Sub Eng จะออก ประมาณว่า Spoil ส่วนหนึ่งให้รู้ว่ามันจะเกิดอะไรในเมะ ผมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วย พูดอย่างนี้ไม่ใช่ว่าผมไม่แปลต่อนะ จะแปลต่อไปแต่แค่แปลทีละนิดถ้าเมะออกแล้วจะสรุปย่อๆ เพราะบางทีคนดูเมะบางคนแปล Eng ไม่ออก ถ้าใครอยากช่วยผมแปลก็ติดต่อได้ที่ E-mail:BossmanK2A@gmail.com ขอบพระคุณทุกๆท่านที่เป็นกำลังใจ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

   สรุปจากเมะ-หลังจากที่หลายคนดู eng ตอนที่ 17 กันแล้ว คงจะรู้แล้วซินะว่าลิฟาคือใคร ลิฟาคือซูกูฮะ ส่วนโซโกคือไอ้ตัวเขียวปีกผีเสื้อที่อยู่กับอาซึนะมีนามในเกมว่า โอเบรอน ราชาแห่งแฟรี่ ความต้องการของโซโกนั้นแตกต่างจากคายาบะ โซโกได้วิจัยเกี่ยวกับเครื่องเล่นประเภท full drive เป็นอย่างดีแล้วเขาก็พบว่า เจ้าเครื่องนี้ถ้าใส่คำสั่งเกี่ยว GM ลงไปในเกม เขาก็จะสามารถควบคุมสมองผู้เล่นได้ ตอนคำพูดทิ้งท้ายของมันตอนพูดกับอาซึนะคือ "ฉันสามารถลบความทรงจำเธอได้" เห็นมั้ยไอ้เชี่ยนี่มันเลวบริสุทธิ์ยิ่งกว่าคายาบะเป็นล้านเท่า จบการสรุปจร้า

1 ความคิดเห็น:

  1. ผมรออ่านผลงานอยู่นะค้าบ
    ช่วยแปลต่อไปนะค้าบ เป็นกำลังใจให้
    ผมอยากติดตามมาก ชอบเรื่องนี้มาก
    อยากรู้ว่าไอ้โตะเราจะช่วยนางเอกได้อ่ะป่าว
    สู้ๆค้าบ^^

    ตอบลบ