ดวงจันทร์เต็มดวงขนาดใหญ่อยู่บนท้องฟ้าที่ไม่มีเมฆ ด้านล่างคือป่าสี น้ำเงิน-เขียว สะท้อนแสงอยู่ใต้ดวงจันทร์
กลางคืนของ ALfheim นั้นสั้นมาก แต่ยังมีเวลาก่อนฟ้าสาง โดยปกติแล้วป่าที่มืดมิดนั้นเป็นสาเหตุของความกังวล แต่ความมืดมิดนี้ก็เริ่มที่จะหายไป
ไลฟาที่ซ่อนอยู่ในร่มเงาต้นไม้ยักษ์ เธอเงยขึ้นมองไปยังดวงดาวบนท้องฟ้า เมื่อไม่นานนี้มีการแสดงผลที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า เธอลดเสียงของเธอลงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เธอพูดกับเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ใกล้ๆกับเธอ "เมื่อปีกของนายฟื้นตัวเสร็จเมื่อไหร่ พวกเราจะออกไปทันที เตรียมตัวให้พร้อม"
"อ่า-แต่ฉันยังมึนๆอยู่เลย..."
คู่หูของเธอตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยเต็มใจ
"นายยังคงรู้สึกป่วย? นายไม่ละอายตัวเองบ้างรึไง? นายควรที่จะใช้มันนะ"
"ถึงเธอจะพูดอย่างนั้น สิ่งที่น่ากลัวก็คือสิ่งน่ากลัวอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ..."
ไลฟาถอนหายใจด้วยความผิดหวัง
ผู้เล่นวัยรุ่นที่อยู่ต้นไม้ถัดไปชื่อรีคอน แถมยังเป็นเพื่อนไลฟาในชีวิตจริงอีกด้วย พวกเขาได้เริ่มเล่น ALO - ALfheim ONLINE - ด้วยกัน จะพูดอีกอย่างก็คือเขาและไลฟาได้เล่นเกมนี้มาเกือบปี อย่างไรก็ตามไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานซักแค่ไหน Recon ก็ยังไม่สามารถเอาชนะความรู้สึกวิงเวียนศีรษะขณะบินได้ ใน ALO ความแข็งแรงในการบินสำหรับการสู้รบบนอากาศเป็นเรื่องสำคัญมากทีเดียว หลังจากที่เขาโดนรุมประมาณ 2 คน เขาก็ถูกกำจัดได้อย่างง่ายดาย แล้วนี่เองที่ทำให้เขาดูไม่ค่อยหน้าเชื่อถือ
แม้ว่ารีคอนจะเป็นเช่นนี้ แต่ไลฟาก็ไม่ได้เกลียดส่วนนี้ของเขา หรือจะพูดได้ว่าเขาเหมือนเป็น 'น้องชาย' ของเธอ ร่างกายของเขาดูค่อนข้างอ่อนปวกเปียก มีผมสีเขียวออกเหลือง มีหูยาวชี้ลงดิน และการแสดงสีหน้าของเขา เมื่อคุณมองดูเขา คุณก็จะคิดว่าเขาเหมือนจะร้องไห้ แม้ว่ามันเป็นการสุ่มตัวละครให้ใกล้เคียงกับรูปแบบความเป็นจริง เมื่อครั้งแรกที่ไลฟาเห็นเขา เธอแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่
สำหรับรีคอนมันก็โอเค ไลฟานั้นมีหน้าตาที่เหมือนที่เหมือนกับความเป็นจริงมากเกินไป เธออยู่เผ่าSylph(พวกแฟรี่ที่มีกปีกแบบผีเสื้อ) เธอมีคิ้วหนามาก มีตาที่สวย และกระดูกร่างกายของเธอค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับพวกคนในเผ่าพันธุ์เดียวกัน
แรกเริ่มเดิมทีนั้นเธออยากเป็นเผ่าที่ «สง่างาม» อยู่แล้ว ไม่แค่มันจะรักษาหน้าตาเดิมของเธอเป็นอย่างดีแล้ว เธอคิดว่ามันยังดูน่ารักอีกด้วย อย่างไรก็ตามสำหรับเธอนั้นโชคดีมาก หลายๆคนไม่ได้โชคดีแบบนี้และพวกเขาพึงพอใจกับการชำระเงินเพิ่มเติมเพื่อสร้างตัวละครของพวกเขา เมื่อเทียบกับพวกเขาไรฟาไม่จำเป็นต้องบ่นอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
การชำระเงินเพิ่มเติมนั้นไม่ได้ส่งผลการเพิ่มประสิทธิภาพใดๆกับตัวละครเลย แต่รีคอนเล่นด้วยดวงตาของเขา เขาเล่นเพื่อความสนุก เขาคิดว่าพวกนั้นถูกปิดกั้นในเรื่องความสมดุล
ไลฟาจับเกราะด้านหลังของรีคอนและดึงขึ้น พอมองไปที่ปีกทั้งสี่ของเขา ก็พบว่ามีแสงระยิบระยับสีเขียวรายล้อมรอบปีก นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาพร้อมที่จะบินอีกครั้ง
"เอาละ ตอนนี้นายสามารถบินได้อีกครั้งแล้ว มันถึงเวลาที่จะต้องออกจากป่าแห่งนี้แล้ว"
"เอ๋~ เราคงต้องโดนไล่อีกครั้งแน่นอน รออีกนิดนึงเหอะน้า~"
"อย่ามาตลกนะยะ! มีแค่ Salamander ที่เก่งๆแค่คนเดียว ถ้าเราระวังดีๆละก็ เราจะไม่ถูกเจอ ยกเว้นซะแต่เราบินไว้สู้บนอากาศอีกครั้ง ดังนั้นเราก็แค่กัดฟันพุ่งและบินออกไป!"
"โอ้ววว..."
รีคอนตอบอย่างไม่เต็มใจ และยกแขนซ้ายขึ้นบนอากาศ จอยสติ๊กโปร่งแสงใช้สำหรับควบคุมการบินบนอากาศปรากฏขึ้นบนมือของเขา เขาจับลูกบอลเล็กๆ สิ่งนี้เป็นตัวช่วยในการควบคุมการบินของ ALO รีคอนใช้มันสำหรับควบคุมปีกของเขา ปีกของเขาเริ่มเติบโตและสดใสขึ้น
หลังจากที่ไรฟาได้เห็นเธอก็เริ่มกางปีกตัวเอง และกระพือปีกซัก 2-3 ครั้ง เธอไม่ได้ใช้จอยสติ๊กควบคุม นี่คือทักษะระดับสูงเรียกว่า «Voluntary Flight» นี่เป็นหลักฐานว่าเธอคือผู่เล่นระดับ first class ในบรรดานักรบของเกม ALO
"เยี่ยม! งั้นเราออกไปจากที่นี่กัน!!" ไรฟากระซิบ
เมื่อปีกของเธอกางพร้อมเต็มที่แล้ว เธอเตะพื้นแล้วก็บินมุ่งหน้าไปยังดวงจันทร์ เธอเริ่มมองเห็นทิวทัศน์กว้างมากขึ้น จนกระทั่งเธอเห็นทั่ว ALfheim เธอรู้สึกดีมาก มันเหมือนกับว่าเธอได้ท่องทั่วไปบนฟ้าได้อย่างเสรี
"เอ่อ..."
เธอบินสูงขึ้นไปเรื่อยๆพร้อมกับเสียงร้องแห่งความสุข ตอนนี้ไม่มีสิ่งอื่นมาแทนที่ความรู้สึกเธอได้ เธอปลดปล่อยความรู้สึกออกมา ตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้วมนุษย์นั้นปราถนาที่จะบินได้เหมือนนก สุดท้ายมันก็กลายเป็นจริงในโลกแฟนตาซีแห่งนี้
จะหมดเวลาการบินเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับค่าประสบการณ์ ถ้าต้องการบินตลอดตามใจตัวเองจำเป็นต้องเสียเงินนิดหน่อย
ในขั้นต้นความปราถนาแรกของผู้เล่นนั้นคือการแข่งขันกันใน ALfheim เพื่อไปถึงยอดของ «Yggdrasil» ก่อนที่จะเข้าการแข่งขันอื่นๆ และเข้าไปยังเมืองแห่งนภาในตำนาน หนึ่งในนั้นจะได้กลายเป็นแฟรี่ที่แท้จริง «ALF» กำจัดขีดกำจัดในการบิน และกลายเป็นผู้ปกครองท้องฟ้าที่ไม่สิ้นสุดอย่างแท้จริง
ไลฟามีความต้องการแรร์ไอเทมหรือเพิ่มสถานะของเธอ นั่นเหตุผลหนึ่งเดียวในการต่อสู้ของเธอ
เธอใช้ปีกที่เหมือนกระจกของเธอมุ่งหน้าไปยังดวงจันทร์ทอง อนุภาคที่ส่องแสงกระจายอยู่เบื้องหลังเธอ เหมือนกับดาวหางสีเขียวที่ลากไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน
"ไล-ไลฟาจางงง~ รอออออด้วย~"
เสียงอ่อนแอจากด้านล่างดึงเธอกลับสู่ความเป็นจริง เป็นหยุดและมองลงไป รีคอนกำตัวคอนโทรลเลอร์ไว้แน่น เขาพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะไล่ตามเธอไป ความเร็วสูงของการบินจะค่อนข้างต่ำเมื่อใช้ระบบช่วยเหลือ และถ้าไลฟาบินอย่างเอาจริงเอาจัง พนันได้เลยว่าเธอต้องทิ้งห่างรีคอนไกลโขเลย
"เร็วๆซิ! พยายามให้มากกว่านี้!"
ไลฟากางปีกของเธอ และกระพือมันเบาๆขณะที่รอรีคอน เธอยกหัวมองสภาพแวดล้อมให้ไกลที่สุดของทะเลของต้นไม้ เธอมองไปที่ Yggdrasil(หลังจากนี้จะของเรียกมันว่าเย็คดาซิว) สูงตระหง่านตาในความมืด จากจุดนี้ระยะทางที่จะไปถึงดินแดนของเหล่าซิวฟ(ถ้าอ่านยากก็เรียกดินแดนแห่งอรชรก็ได้) ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตนเอง
เมื่อรีคอนบินขึึ้นมาสูงกับจุดเดียวกันแล้ว ไลฟาปรับความเร็วในการบินของเธอให้เท่ากันกับรีคอน เพื่อจะได้บินด้วยกันได้
รีคอนบินข้างๆเธอ แล้วแสดงคำพูดออกจากใจ "สูง ไม่คิดว่ามันสูงเกินไปใช่ไหม?"
"นายไม่มีความรู้สึกชื่นชอบที่สูงๆบ้างเหรอ? ถ้านายรู้สึกเหนื่อยพวกเราก็สามารถร่อนได้นะ"
"เมื่อเธอบินเมื่อไหร่ บุคลิกที่สองของเธอจะปรากฎ..."
"ว่าไงนะ?"
"ปะ-เปล่า ไม่มีอะไร!"
รีคอนรีบหุบปากเงียบในขณะที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังเขตทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ ALfheim ที่นั่นคือ ดินแดนของเหล่าซิวฟ
ก่อนหน้านี้ในวันนี้ไลฟาได้เข้าปาตี้ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันอีก 4 คน และเดินทางไปยังดันเจี้ยนที่อยู่ใจกลางดินแดนตรงทิศตะวันออกเฉียงเหนือ โชคดีที่พวกเขาสามารถล่ามอนสเตอร์ได้โดยไม่ต้องเผชิญหน้ากับปาตี้ตี้อื่นๆ นั่นเป็นช่วงเวลาที่มีค่ามาก และพวกเขาก็ได้เงินกับไอเท็มมามากมาย เมื่อพวกเขาจะเตรียมตัวกลับไปยังเมืองของเหล่าซิวฟ ทันใดนั้นพวกเขาก็ถูกซุ้มโจมตีโดยปาตี้ของ Salamander ที่มีจำนวนอยู่ 8 คน
การต่อสู้กันระหว่างเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกันถือเป็นเรื่องธรรมดามากใน ALO แต่ค่อนข้างหาได้ยากมากที่จะมีคนผู้เล่นใหญ่มาเพื่อร่วมกันปล้นผู้เล่นคนอื่นๆ สำหรับวันนี้เป็นเรื่องที่ประหลาดใจมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสังเกตุดีๆแล้วมันเป็นช่วงบ่ายในโลกแห่งความจริง พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าจะโดนโจมตีโดยเฉพาะอย่างยิ่งการโดนลอบโจมตีจากกลุ่มใหญ่ๆ... พวกเขาประมาทเกินไป
ขณะที่พวกเขาทั้ง 2 กำลังบินหนีได้ปะทะแบบ team battle บนอากาศกลางคันกับ«AIR RAIDs» ระหว่างนั้นทั้ง 2 ฝ่ายได้หายไป 3 คน จากนั้นจำนวนของพวกเขาก็น้อยลงเรื่อยๆ แล้วตอนนี้ก็เหลือแค่ไลฟาและรีคอนที่ถูกทิ้ง การใช้ประโยชน์จากความจริงที่ว่าเผ่าซิวฟ(จากนี้ขอใช้แทนSylphs) บินได้รวดเร็วกว่าเผ่าซาลามันเดอร์(ใช้แทน salamander) หวกเขาต้องการหลีกเลี่ยงจากการเจอตัวกับพวกนั้น แล้วรีบมุ่งหน้าไปยังดินแดนของซิวฟ แต่เนื่องจากการต่อสู้ที่วิงเวียนบนฟ้าติดต่อกัน 2 รอบ รีคอนเริ่มมึนหัวหนักมากขึ้นเรื่อยๆ และพวกเขาก็ไม่สามารถที่ไปถึงดินแดนของซิวฟได้ แต่พวกเขาก็ได้ซ่อนตัวอยู่ในป่าเพื่อให้รีคอนฟื้นปีกของเขา เช่นเดียวกับไลฟา เพื่อให้เธอผ่อนคลายจากความตึงเครียด และได้หันกลับไปป่าอยู่ที่ด้านหลังของเธอ
ทันใดนั้นก็มีลูกไฟสีส้มพุ่งออกมาจากต้นไม้สีเขียว
"รีคอนหลบ!" ไลฟาตะโกนแล้วแกว่งตัวไปทางซ้ายอย่างรวดเร็ว
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เอาละตอนนี้เรามาสรุปย่อๆกันจนถึงตอนที่อยู่ในอนิเมะตอนที่ 16 นะครับ จากที่พวกเราได้ดูกันไลฟากับรีคอนได้สู้กับพวกที่ยิงลูกไฟสีส้มออกมา แต่พอสู้ไปมารีคอนก็โดนจัดการ ทางไลฟาก็เสียเปรียบแล้วร่วงลงมาจากท้องฟ้า ถ้าเป็นในนิยายมันจะตัดตอนไปยังตอนที่คิริโตะร่วงลงมาที่ป่าแล้วก็พบกับยูอิ ฝึกบินอธิบายเรื่องสกิลประมาณว่า เกมนี้มันก็อปจาก SAO เกือบทุกอย่างมีฐานข้อมูลตัวเดียวกัน แต่ชื่อไอเท็มส่วนใหญ่กับสกิลบางตัว สิ่งไหนที่ใช้ไม่ได้มันจะขึ้นตัว ? นี้ออกมา แล้วก็ฝึกบินเบื้องต้น ฝึกบินไปบินมาก็พบกับการต่อสู้ของรีคอนกับไลฟาตอนอยู่บนฟ้า ตอนที่ไลฟาตกลงมาคิริโตะก็ได้ดูไอเท็มพบว่ามีดาบเริ่มต้นอยู่ก็เลยนำมันออกมาแล้วลองเหวี่ยงดาบดู เขาพูดว่ามันเบามากเกินไป แล้วถามยูอิว่าคนที่ตกลงจากท้องฟ้าอยู่ที่ไหน ยูอิก็บอกสถานที่ไลฟาตกลงมาแล้วรีบมุ่งหน้าไปทางจุดที่ไลฟาตก เจ้าคิริโตะมันก็โชว์เมพดังภาพนี้
เอาละจบสรุปเพียงเท่านี้เรามาอ่านนิยายล่วงหน้าก่อนดูอนิเมะกันก่อนเถอะ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------วิธีการโจมตีของ ALO นั้นไม่ซับซ้อน มันขึ้นอยู่กับปัจจัย 4 อย่าง: พลังค่าโจมตีของอาวุธ, จุดต่างๆที่โดนคู่ต่อสู้, ค่าความเร็ว และค่าป้องกันที่ฝ่ายตรงข้ามสวมใส่ ในสถานการณ์นี้ค่าพลังของอาวุธเขาคือเกือบต่ำสุดในบรรดาอาวุธทั้งหมด ในขณะที่ค่าพลังป้องกันของซาลามันเดอร์พวกนั้นอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ค่าโจมตีของเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นของจริง และความเร็วที่เหลือเชื่อ
เด็กหนุ่มคนนั้นนั่งลงผ่อนคลายและเงยหน้าไปที่ผู้นำกลุ่มซาลามันเดอร์ที่โดนเด็กหนุ่มคนนั้นกำจัดซึ่งกำลังลอยอยู่บนอากาศ ดาบของเขาพิงอยู่ที่ไหล่ เด็กหนุ่มอ้าปากแล้วพูดว่า:
"นายอยากจะลองของไหมครับ?"
คำพูดของเด็กหนุ่มคนนั้นทำให้บรรยากาศตกอยู่ในสภาวะตึงเครียดโดยสมบูรณ์ แล้วซาลามันเดอร์คนนั้นก็ยิ้ม
"ฉันไม่โอกาศที่จะชนะเลย ลืมมันซะเถอะ ฉันจะให้ไอเทมนายถ้านายต้องการพวกมัน ทักษะเวทมนต์ของฉันมีเกือบ 900 และติดโทษประหาญชีวิต ถ้านายจัดการฉันมันจะทำให้งานฉันเสีย"
"นายเป็นคนตรงๆดีนะ"
เด็กหนุ่มหัวเราะสั้นๆแล้วหันหัวจ้องมองไปที่ไลฟา
"เธอน่ะ ผู้คนนั้นอะเธอต้องการอะไร? ถ้าเธอต้องการสู้กับเขา ผมก็จะไม่รบกวนเธอนะ"
ความสับสนวุ่นวายต่างๆในตัวเธอหายไปหมดอย่างปลิดทิ้งแล้วไลฟาก็หัวเราะลั่น เขาเป็นคนประเภทชอบต่อสู้กับทุกคนในสนามรบและยุติสปิริตในการสู้ของทุกคนได้
"ก็ดีนะ ครั้งหน้าฉันต้องชนะแน่ๆ คุณซาลามันเดอร์"
"มั่นใจได้เลย ถ้าสู้กับเธอแบบ 1 ต่อ 1 ฉันแพ้แน่ๆ"
หลังจากที่เขาพูดเสร็จซาลามันเดอร์คนนั้นก็กางผีกของเขาแล้วบินหนีไป แล้วทิ้งแสงระยิบระยับสีแดงเอาไว้ บินทะลุพุ่มไม้ข้างบนหายไปบนท้องฟ้าที่มืดมน ที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็มีแค่ไลฟากับเด็กหนุ่มชุดดำอยู่ที่โล่งที่มีสีหน่อยๆ นาทีต่อมาพวกเขาก็หายไป
ขณะที่เธอมองไปทางเด็กหนุ่ม เธอพูดอย่างเกร็งขึ้นมาว่า
"แล้วฉันต้องทำไรดี? ฉันควรต้องขอบคุณ? ฉันควรวิ่งหนี? หรือพวกเราควรสู้กัน"
เขาเหวี่ยงดาบของเขาไปทางซ้ายและขวา แล้วใส่มันเข้าไปที่ใส่ดาบข้างหลัง พร้อมกับเสียงใส่ดาบ
"อา สำหรับผมมันอาจดูเหมือนอัศวินขี่ม้าขาวไปช่วยเจ้าหญิงที่กำลังถูกทำร้าย"
เขาหัวเราะพร้อมกับรอยยิ้ม
"แล้วด้วยความกตัญญูของเจ้าหญิง เธอก็ร้องไห้วิ่งเข้ามากอดเจ้าชาย"
"นายบ้าปะเนี่ย?"
ไลฟาร้องออกโดยไม่ตั้ง ใบหน้าของเธอเริ่มแดง
"ฉันคงต้องสู้กับนายแล้วละ!"
"ฮ่าๆ ล้อเล่นน่า ล้อเล่น"
ขณะที่มองไปที่เด็กหนุ่มที่กำลังหัวเราะอย่างมีความสุข ไลฟากัดฟันของเธอด้วยความโกรธ ขณะที่เธอเขม่นเขาเธอก็ได้ยินเสียงๆหนึ่ง
"ใช่เลย หนูไม่ให้ทำอย่างนั้นแน่ๆ"
มันเป็นเสียงของเด็กสาว ไลฟามองไปรอบๆก็ไม่พบอะไรเลยแม้กระทั่งเงา แล้วไลฟามองไปที่เด็กหนุ่มที่กำลังทำท่าลนๆและพูดว่า
"ฮะ-เฮ้ ฉันบอกเธอไปแล้วนะว่าอย่าออกมา!"
ไลฟาหันมองไปที่กระเป๋าหน้าอกของเด็กหนุ่ม แล้วก็มีอะไรบางอย่างที่ระยิบระยับกระโดดอกมาจากกระเป๋า สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กบินไปที่ข้างหน้าเขาทำเสียงหึ่งๆเบาๆ
"มีแค่ม่าม้าเท่านั้นที่ติดกับปาป๋าได้!"
"ปะ-ปาป๋า!?"
ไลฟาเคลื่อนที่เข้าไปใกล้อีกเล็กน้อย เพื่อที่จะดูแฟรี่ขนาดพอเหมาะมือ มันคือพิกซี่ผู้ชี้ทางที่สามารถเรียกมันออกมาได้จากหน้าต่างช่วยเหลือ แต่ในกรณีนั้นมันควรตอบได้แค่คำถามเบสิกๆที่เกี่ยวข้องกับเกมนี้ได้เท่านั้น
ไลฟาลืมเรื่องที่ระแวงเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้น เธอจ้องมองพิจารณาพิกซี่ตนนั้นอย่างตั้งใจเพื่อดูว่ามันคืออะไร
"อ๋า ไม่จริงน่ามันคือ..."
เด็กหนุ่มรีบรวบมือทั้ง 2 ห่อพิกซี่ แล้วนำมันเข้าใกล้เขา พร้อมกับยิ้มแหยๆ ไลฟามองพิกซี่ที่อยู่ในมือเด็กหนุ่มแล้วเอ่ยปากถามขึ้นมาว่า:
"นั่นใช่ «พิกซี่ส่วนตัว» รึเปล่า?"
"หือ?"
"มันเป็นโปรโมชั่นในช่วงที่มีเกมวางจำหน่ายครั้งแรก จะมีการจับฉลากขึ้นมาแล้วผู้ชนะจะได้พิกซี่ส่วนตัว นี่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย"
"อ๋าาา อ่อยอ้ะ(ปล่อยนะ)"
พิกซี่เริ่มที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ถูกขัดจังหวะเมื่อเด็กหนุ่มเอานิ้ววางบนปากของเธอ
"ใช่ๆเป็นมันนั่นแหละ ผมโชคดีในการจับฉลาก"
"ก็ว่างั้นละ เฮ้อ..."
ไลฟามองไปที่เด็กหนุ่มเผ่าสปริกแกน (Spriggan) อีกครั้ง สังเกตุเขาตั้งแต่บนลงล่าง
"มะ-มีอะไร?"
"นายคนปริศนา เห็นได้ชัดว่าคุณเริ่มเล่นเกมนี้ตั้งแต่มันออกมาครั้งแรก แต่นายใช้ของเริ่มต้น หรือไม่งั้นงั้นก็คงเป็นว่านายแข็งแรงสุดๆ"
"เอ่อเรื่องนี้... ที่จริงแล้วแอคเคาต์ผม แต่ผมเพิ่งเล่มเกมนี้พอดีว่าผมมัวแต่เล่นเกมแนว VRMMO อื่นเป็นเวลานานเท่านั้นเอง"
"แน่นะ?"
ไลฟารู้สึกว่ามันอาจเป็นไปได้เพราะว่าเขาคุ่นเคยกับ Amusphere เพราะเขาได้เล่นเกมมามากมาย แล้วมันอาจจะเป็นไปได้ว่าเขาสามารถที่จะมีความเร็วได้ถึงเพียงนี้
"ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ เห็นได้ชัดว่านายอยู่เผ่าสปริกแกน แล้วทำไมนายถึงมาอยู่นี่? ดินแดนของเผ่านายอยู่ทางทิศตะวันออกที่ห่างไกลไม่ใช่เหรอ"
"ผม... ผมหลงทาง"
"หลงทาง??"
คำตอบที่หมดหนทางของเขา ทำให้ไลฟาตะโกนออกไปอย่างงงๆ
"ถ้าไม่รู้เรื่องทิศทางมันก็้องมีลิมิตกันบ้าง... นายแปลกเกินไป"
เธอหัวเราะขึ้นมาพร้อมกอดอกตัวเองเมื่อเธอเห็นสีหน้าตึงเครียดของเด็กหนุ่ม หลังจากนั้นไลฟาเก็บดาบของเธอกลับเข้าฝักและพูดว่า:
"เอาเถอๆ ยังไงก็ตามฉันต้องขอบคุณนาย ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้ ฉันชื่อว่าไลฟา"
"ส่วนผมชื่อคิริโตะ และเด็กคนนี้ชื่อยูอิ"
เมื่อเด็กหนุ่มเปิดมือของเขา พิกซี่ก็บินแก้มป่องมาที่เธอพร้อมแสดงสีหน้าไม่ค่อยพอใจ เธอโค้งคำนับให้กับไลฟา จากนั้นก็บินไปที่ไหล่ของคิริโตะและนั่งลง
ไลฟารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เธอรู้สึกอยากคุยกับชายที่ชื่อคิริโตะ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใดๆสำหรับเธอที่จะมีเพื่อนในโลกแห่งนี้ เพียงแต่เธอไม่ค่อยได้ที่จะสร้างความสัมพันธ์กับผู้เล่นคนอื่นๆ เขาดูไม่เหมือนคนเลว ไลฟาคิดในใจและพูดว่า:
"แล้วนายมีแผนไหมว่าอนนี้นายจะทำอะไร?"
"ตอนนี้ผมยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี"
"งั้น...เอ่อ ถ้างั้นให้ฉันเลี้ยงเครื่องดื่มเป็นการขอบคุณนะ?"
หลังจากที่ได้ยินเมื่อกี้เด็กหนุ่มที่ชื่อคิริโตะหัวเราะพร้อมกับรอยยิ้มบนหน้าของเขา ไลฟามองที่รอยยิ้มเขา และคิดว่ามันเป็นรอยยิ้มจากหัวใจ คนที่สามารถหัวเราะอย่างเปิดเผยและแสดงอารมณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่หายากในโลกเสมือน
"นั่นทำให้ผมรู้สึกดีนะ อันที่จริงผมกำลังมองหาคนที่สามารถตอบคำถามผมในหลายๆคำถามได้"
"ในหลายๆคำถาม?"
"สิ่งที่เกี่ยวกับโลกนี้... โดยเฉพาะอย่างยิ่ง..."
เขาหุบรอยยิ้มของเขาแล้วหันไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
"สิ่งที่เกี่ยวกับต้นไม้ต้นนั้น"
"ที่ World Tree นั่นเหรอ? มั่นใจได้เลยเห็นอย่างนี้ฉันก็เป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์มามากมาย ดูนั่นนะถึงแม้ว่ามันจะไกลไปหน่อย มันจะมีหมู่บ้านธรรมดาๆแห่งหนึ่งอยู่ทางเหนือ บินไปที่นั่นล่ะ"
"ไปทางเมืองซิวฟไม่ใกล้กว่าเหรอ?"
ไลฟาอึ้งเล็กน้อยและมองไปที่หน้าของคิริโตะก่อนจะตอบ...
"นั่นมันก็ถูก... นายไม่รู้อะไรจริงๆเหรอเนี่ย? ที่นั่นคือดินแดนของซิวฟ"
"มีปัญหาอะไรเหรอ?"
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของคิริโตะ ไลฟาก็พยายามที่จะเรียบเรียงคำพูด
"...ปัญหา... นายก็ควรเรียกมันอย่างนั้นล่ะ เพราะมันเป็นดินแดนของซิวฟ นายก็จะไม่สามารถโจมตีใครในเมืองได้ แต่ในทางกลับกันซิวฟที่อยู่ในเมืองจะสามารถโจมตีนายได้"
"เฮ้อ อย่างนี้นี่เอง แต่คนอื่นๆจะไม่ทำร้ายผมถ้าผมไปกับไลฟาซังใช่ป่ะ ผมอยากไปดินแดนของซิวฟ ได้ยินมาว่ามันสวยงามมาก"
"เรียกไลฟาเฉยๆก็พอ นายเป็นคนที่แปลกดีนะ ก็... ไม่ได้คัดค้านอะไรหรอกนะ แต่ฉันไม่สามารถรับประกันคามปลอดภัยให้นายได้"
ไลฟายักไหล่ตอบตอบ อยากไปดินแดนของซิวฟมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอก เผ่าสปริกแกนค่อนข้างหายากในแถวนี้ซะด้วย พากเขาไปด้วยอาจเจอเรื่องตื่นเต้น ไลฟาคิดในใจในเรื่องวุ่นๆอยู่เต็มหัว
"ดีถ้าอย่างนั้นพวกเราจะบินไปที่ Sylvain เดี๋ยวจะไม่ว่างเล่นแล้ว"
ไลฟากล่าวขณะที่เธอตรวจสอบหน้าต่างเพื่อดูเวลาในโลกจริง ตอนนี้ 4 โมงเย็นแป๊ะ เธอไม่สามารถ "dive(ประมาณว่าเล่น)"ได้นาน
ไลฟาในตอนนี้ได้ฟื้นพลังของปีกเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว เธอค่อยๆกลางปีกอย่างนุ่มนวลแล้วกระพือมัน คิริโตะเอียงหัวมองไปอย่างสงสัยและถาม
"ไลฟามันเป็นไปได้ไหมที่จะควบคุมปีกโดยไม่ต้องใช้ตัวคอลโทรนเลอร์?"
"เอ๋ ได้ซิ ถามอะไรงั้นเหรอ?"
"ผมแค่เพิ่งรู้วิธีการควบคุมการบินเมื่อไม่นานนี้"
คิริโตะยกมือซ้ายของเขาขึ้นเหมือนพยายามจะคลำหาอะไรบางอย่าง
"เคล็ดลับของการบินด้วยตัวเองนั้น คนอื่นๆส่วนใหญ่เขาจะทำแบบนี้กัน ขั้นแรกอย่าเอาตัวคอลโทรนเลอร์ออกมา จากนั้นก็หมุนตัวหันหลังมาทางฉันนี่"
"ไงต่อ?"
คิริโตะหันตัวของเขาเป็นครึ่งวงกลม ไหล่ของเขาไม่กว้างเท่าไร ลิฟา(เปลี่ยนจากไลฟาเป็นลิฟานะครับ)ใช้นิ้วชี้สัมผัสเบาๆตรงบนต้นไหล่ของเขา พิกซี่ของเขาดูอย่างตั้งอกตั้งใจบนไหล่ของเขา
"จำจุดที่ฉันสัมผัสเอาไว้"
"โอเค"
"ถึงมันจะเรียกว่าการบินด้วยตนเองก็เถอะ แต่มันก็ไม่ได้ใช้เพียงแค่จินตนาการเท่านั้น สิ่งที่นายต้องเรียนรู้คือสมมุติถึงกระดูกและกล้ามเนื้อที่กลายเป็นปีกนาย จากนั้นก็เรียนรู้ที่จะขยับมัน"
"สมมุติว่ามีกระดูก... สมมุติถึงกล้ามเนื้อ"
คิริโตะพูดทวนซ้ำอย่างเบาๆ ในขณะที่เขาพูดไหล่ของเขาเริ่มกระตุก ปีกสีเทาก็ผลักออกมาจากเสื้อของเขาตรงจุดที่ลิฟาสัมผัส ตอนแรกพวกมันค่อยๆขยับอย่างเชื่องช้า แต่ต่อมาพวกมันเริ่มขยับพร้อมๆกัน ตอนนี้ปีกของเขาขยับพร้อมเพรียงกันเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว
"โอ้อย่างนั้นแหละ ตอนแรกขยับไหล่และกล้ามเนื้อของนายเพื่อเข้าใจความรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของปีก"
เมื่อเธอพูดเช่นนั้นกล้ามเนื้อด้านหลังของเขาเริ่มตอบรับอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันนั้นปีกของเขาเริ่มกระพือและลิฟาก็ได้ยินเสียงการกระพือของปีก
"นั่นแหละ! แล้วตอนนี้ก็ทำให้มันแรงขึ้นอีก"
"อืมๆๆ"
ไลฟากางแขนของตัวเธอให้ไกลสุดเท่าที่จะทำได้ แล้วทิ้งมือของเธอไปที่ด้านหลังของคิริโตะจนปีกของเขามีแรงกระพือจนเพียงพอ ในขณะนั้นเองลิฟาได้ผลักหลังของคิริโตะด้วยแรงทั้งหมดที่มี
"โว้ว!"
สปริกแกนพุ่งไปบนอากาศเหมือนจรวด
"โอ้... โอ้... โอ้... ว้าว!"
ร่างกายของคิริโตะเริ่มเล็กลงเรื่อยๆ เสียงร้องของเขานั้นไกลออกไปเรื่อยๆเกินกว่าจะได้ยินอย่างรวดเร็วพร้อมกับใบไม้ที่ปลิวว่อน เขาหายไปบนยอดต้นไม้อย่างรวดเร็ว
"......"
ลิฟาย้ายสายตาของเธอมองไปที่พิกซี่ ซึ่งหลุดออกมาจากไหล่ของคิริโตะ
"แย่แล้ว"
"ปะป๋า...!"
พวกเธอออกตัวพร้อมกันเพื่อไล่ตามคิริโตะ หลังจากที่พวกเธอออกมาจากต้นมาที่ทะเล พวกเธอค้นหาอย่างตัวเขาละเอียดบนท้องฟ้ายามดึก ในที่สุดก็พบตัวเขา เขาเคลื่อนที่อย่างมั่วซั่วไปทางขวาภายใต้เงาของดวงจันทร์สีทอง
"โอยๆๆๆๆๆ ว๋าๆๆๆๆๆๆ....... ใครก็ได้ช่วยหยุดที!"
เสียงกรีดร้องอันหน้าสังเวชทำลายความเงียบในตอนกลางคืน และสะท้อนเสียงไปบนท้องฟ้าไม่สิ้นสุด
"...พรืดด"
ลิฟาและยูอิมองหน้ากัน และไม่สามารถที่จะกลั้นขำตนเองได้
"พรืดดดดด... ฮะ... ฮะๆๆๆ...!"
"ขอโทษค่ะปะป๋า มันตลกมาก~~~"
ขณะที่พวกเขาเธอกำลังบินข้างกันบนอากาศ พวกเธอทั้งคู่ก็ได้หัวเราะพร้อมกุมท้องไปด้วย เมื่อพวกเธอกำลังจะหยุดหัวเราะ พวกเธอก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของคิริโตะอีกครั้ง ทำให้พวกเธอหัวเราะแบบเป็นบ้าเป็นหลังอีกครั้ง
ลิฟาจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เธอหัวเราะอย่างหนักนี้คือเมื่อไหร่ นี้คงต้องเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เธอมายังโลกนี้
หลังจากที่หัวเราะมาได้สักพักก็ได้พุ่งไปคว้าคอเสื้อคิริโตะเพื่อให้เขาหยุดบิน และเพื่อจบการสอนเทคนิคการบินด้วยตนเอง สำหรับมือใหม่นั้นคิริโตะเป็นผู้ที่สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วมาก หลังจากเวลาผ่านไปได้ประมาณ 10 นาทีหลังจาการบรรยาย คิริโตะก็สามารถบินได้อย่างอิสระ
"โห... นี่มัน... ยอดไปเลย!"
คิริโตะตะโกนขึ้นขณะที่เขาบินและผาดโผนบนอากาศ
"ใช่ๆ เห็นด้วย!"
ลิฟาตอบพร้อมรอยยิ้ม
"อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูกเลย แบบว่ามันสุดยอดมาก! ผมต้องการที่จะบินแบบนี้ตลอดไป..."
"ใช่เลย!"
ลิฟาก็มีความสุขเช่นเดียวกัน เธอกระพือปีกบินคู่กันกับในวงบินเดียวกันกับคิริโตะ
"ไม่แฟร์อ่ะ... ขอไปด้วยคน!"
ยูอิจับและปรับตำแหน่งไปที่ตรงการของทั้งสอง
"นายควรฝึกลดการเคลื่อนไหวของหลังส่วนล่าง และส่วนกระดูกสะบักให้มากที่สุกเท่าที่จะเป็นไปได้ นายจะไม่สามารถที่จะแกว่งดาบได้ดีในการต่อสู้ทางอากาศ ถ้านายยังคงเคลื่อนไหวโดยไม่จำเป็นมากเกินไป เอาล่ะถ้าอย่างงั้นเราก็บินไปที่ Sylvain แบบนี้นะ ไปกันเลย"
ลิฟาหันซ้ายหันขวาเพื่อหาทิศทางที่จะไป จากนั้นพวกเขาก็เริ่มแล่นผ่านบนป่า เธอเริ่มรู้สึกกังวลเธอกำลังจะบินเร็วเกินไปสำหรับมือใหม่เรื่องการบินอย่างคิริโตะ ดังนั้นเธอจึงลดสปีดของเธอในระดับที่คิริโตะเลยเธอไปนิดหน่อย เธอมองไปที่คิริโตะและได้ยินเขาพูดว่า:
"เราสามารถบินได้เร็วอีกหน่อย ถ้าเธอต้องการ"
"โฮะๆ"
ลิฟายิ้มแบบน่ากลัวแล้วขณะเดียวกันเธอก็หุบปีกของเธอให้มุมแคบลงและเริ่มเร่งความเร็วขึ้นอย่างเฉียบพลัน คิริโตะได้ยินเสียงที่เกิดขึ้นโดยการกระพือปีกที่ถี่ขึ้นของเธอและเร่งความเร็วให้ได้เท่ากับเธอ ความดันอากาศของลมตีเข้ากับร่างกายเธอเพิ่มมากขึ้น และความเร็วของลมนั้นทำให้เธอได้ยินเสียงวู่วๆ
น่าแปลกใช้สปีดถึง 70% จากความเร็วทั้งหมดที่มี และคิริโตะยังคงสามารถบินอยู่ข้างขวาเธอได้ คนส่วนใหญ่เมื่อพวกเขาเริ่มมีค่าสปีดใกล้ถึงจุดสูงสุดของที่ระบบตั้งไว้ พวกมือใหม่นั้นก็เริ่มจะมึนหัว หน้าตาหมองคล้ำ มันอาจเป็นความกดดันทางจิตวิทยาบางชนิด สำหรับคิริโตะที่สามารถเอาชนะความกดดันในการบินเที่ยวแรกของเขา... เขาจะต้องมีพลังใจที่ไม่ธรรมดา
ลิฟาเม้มปากของเธอและเริ่มเร่งความเร็วถึงจุดสูงสุด เธอไม่เคยเร่งความเร็วถึงจุดสูงสุดมาก่อน ส่วนใหญ่เพราะว่าตามปกติแล้วไม่มีเพื่อนร่วมทีมของเธอคนใดสามารถตามความเร็วของเธอได้
ตอนนี้เหล่าต้นไม้ที่อยู่ด้านล่างสายตาของเธอจะผ่านไปอย่างรวดเร็วอยู่เบื้องหลังของพวกเขา การกระพือปีกของซิวฟ ทำให้เกิดเสียงแหลมสูง ซึ่งผสมกับปีกของสปริกแกน ฟังแล้วมันเหมือนกับเสียงดนตรีในสายลมที่สวยงาม
"ฮ้า... เร็ว... ไปแล้ว! มันใช้การไม่ได้!"
ยูอิร้องขณะที่เธอมุดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อตรงอกของคิริโตะ คิริโตะและลิฟามองหน้ากันแล้วหัวเราะ
เมื่อสังเกตุเห็นว่ากำลังจะถึงจุดสิ้นสุดของป่าและจุดที่เรืองแสงก็ปรากฏขึ้น จุดที่สว่างมากที่สุดมาจากหอคอยที่อยู่ใจกลาง นั่นคือสัญลักษณ์เมืองหลวงของเหล่าซิวฟ เมืองSylvian เป็นที่รู้จักกันในชื่อ "หอคอยแห่งสายลม" ในไม่ช้าพวกเราก็เข้าใกล้เมืองเรื่อยๆ และเริ่มเข้าใกล้ถนนสายหลัก สังเกตุเห็นได้เลยว่ามีผู้เล่นเข้า-ออกกันเป็นจำนวนมาก
"โอ้ เห็นแล้วๆ!"
คิริโตะกล่าวออกไปกลางสายลม
"พวกต้องลงจอดที่หอคอยกลางตรงนั้น โอะ!"
ลิฟาตระหนักถึงบางสิ่งจากใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเธอเริ่มเป็นสีหน้าปกติ
"คิริโตะคุงนายรู้วิธีลงจอดไหม?"
"..."
สีหน้าของคิริโตะเริ่มตึงเครียดและพูดว่า:
"ผมไม่รู้ต้องทำยังไง!"
"ประมาณว่า..."
ตอนนี้อีกแค่อึดใจเดียวก็ถึงที่ลงจอดแล้ว ตอนนี้ทัศนวิสัยมองเห็นแค่หอคอยขนาดใหญ่
"โทษทีนะ มันสายไปแล้วขอให้โชคดี"
เมื่อเธอยิ้มที่สำนึกผิดแล้วเธอก็เริ่มชะลอความเร็วอย่างเฉียบพลันเพื่อลงจอด ลิฟากางปีกของเธอเพื่อเบรกอย่างเต็มกำลังและเหยียดเท้าไปข้างหน้าแล้วเริ่มกระบวนการลงจอด
"บ้าเอ้ย..."
สปริกแกนกรีดร้อง ลิฟาเฝ้าดูเขาที่กำลังชนพนังแล้วหวังว่าเขาจะรอดจากการลงจอดครั้งแรกนี้
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ตุบ!! เสียงนี้ทำให้อากาศสั่นสะเทือน
"โอย ลิฟาใจร้ายจังนะ การบินนี่ช่างน่ากลัวซะจริง ผมคงต้องปรับปรุงให้มากกว่านี้"
ที่ใจกลางของหอคอย คิริโตะกำลังลุกขึ้นนั่งบนตรงกลางเตียงดอกไม้ที่เขาชน
"ตาหนูมันหมุนได้..."
พิกซี่ที่นั่งอยู่บนไหล่ของเขานั้นกำลังโซเซและมึนหัว ลิฟาเท้าเอวหัวเราะและตอบกลับไป:
"นายมีความกระตือรือร้นมากเกินไป นายทำให้ฉันเซอไพรส์ที่นายยังมีชีวิตอยู่ ฉันคิดว่านายจะต้องตายแน่นอนแล้วซะอีก"
"ฮ้า มันมากเกินไป!"
คิริโตะกระแทกกับกำแพงด้วยความเร็วสูงสุดทำที่ระบบเกมกำหนดไว้ แต่เขาสูญเสีย HP เพียงแค่เกือบครึ่งเท่านั้น อาจเป็นไปได้ว่าร่างกายเขาแข็งแรงตามธรรมชาติหรือคนแค่โชคดีเท่านั้น แต่ตัวเขานั้นมีความลึกลับอยู่มากมายสำหรับผู้เล่นมือใหม่
"โอเคๆ ฉันจะฮีลให้นาย"
ลิฟายื่นแขนขวาของเธอออกมาแล้วร่ายเวทย์ฟื้นฟู แสงสีฟ้าแพร่กระจายออกมาจากฝ่ามือของเธอและค่อยลอยลงมาที่ตัวคิริโตะ
"โอ้เจ๋งดี งั้นนี่คงเป็นเวทย์มนต์"
ความอยากรู้อยากเห็นของคิริโตะ เขามองไปที่รอบๆตัวของเขาที่มีแสงสีฟ้าอ่อนคลุมอยู่เหมือนหิมะตก
"มีเพียงเผ่า อันดีน(Undine) เท่านั้นที่สามารถใช้เวทย์มนต์ประเภทฟื้นฟูระดับสูงได้ แต่นี่มันเป็นเวทมนต์ที่ขาดไม่ได้ นายควรจะเรียนรู้มัน"
"นั่นคือจุดอ่อนและจุดแข็งเรื่องเวทมนต์ของแต่ละเผ่าใช่ปะ? แล้วเผ่าสปริกแกนมีอะไรดีเป็นพิเศษล่ะ?"
"มีอยู่ 2 อย่าง:ข้อแรกคือความสามารถสนับสนุนในเรื่องตามหาสมบัติและเวทย์มนต์สร้างภาพมายา จึงเป็นเผ่าที่ไม่ได้มีความสามารถทางด้านการต่อสู้ เลยเป็นเผ่าที่นิยมน้อยที่สุด"
"อ่าาา... ผมควรทำการของผมให้ดี"
คิริโตะยักไหล่ของเขาและลุกขึ้นหันไปมองรอบเมือง
"โฮ่ นี่ซินะเมืองซิวฟ เป็นที่ๆสวยงามดี"
"ใช่ป่ะละ?"
ลิฟามองไปรอบเมืองของของเผ่าเธอ ที่เธออาศัยอยู่เป็นเวลานาน
« Sylvain » ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม «เมืองมรกต» เป็นชื่อที่ตั้งตามลักษณะเมือง
หลังจากตรงนี้ไม่ขออธิบายต่อถ้าอยากอ่านต่อรอซื้อหนังสือแท้กันนะครับถ้ารอไม่ไหวก็ดู Sub Eng หรืออ่าน Eng นะครับ เพราะว่าวันที่ 29/10/55 ผมเปิดเทอมแล้ว เลยเป็นเรื่องยากมากที่จะแปลต่อ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะขอแปลก่อนที่จะ Sub Eng จะออก ประมาณว่า Spoil ส่วนหนึ่งให้รู้ว่ามันจะเกิดอะไรในเมะ ผมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วย พูดอย่างนี้ไม่ใช่ว่าผมไม่แปลต่อนะ จะแปลต่อไปแต่แค่แปลทีละนิดถ้าเมะออกแล้วจะสรุปย่อๆ เพราะบางทีคนดูเมะบางคนแปล Eng ไม่ออก ถ้าใครอยากช่วยผมแปลก็ติดต่อได้ที่ E-mail:BossmanK2A@gmail.com ขอบพระคุณทุกๆท่านที่เป็นกำลังใจ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สรุปจากเมะ-หลังจากที่หลายคนดู eng ตอนที่ 17 กันแล้ว คงจะรู้แล้วซินะว่าลิฟาคือใคร ลิฟาคือซูกูฮะ ส่วนโซโกคือไอ้ตัวเขียวปีกผีเสื้อที่อยู่กับอาซึนะมีนามในเกมว่า โอเบรอน ราชาแห่งแฟรี่ ความต้องการของโซโกนั้นแตกต่างจากคายาบะ โซโกได้วิจัยเกี่ยวกับเครื่องเล่นประเภท full drive เป็นอย่างดีแล้วเขาก็พบว่า เจ้าเครื่องนี้ถ้าใส่คำสั่งเกี่ยว GM ลงไปในเกม เขาก็จะสามารถควบคุมสมองผู้เล่นได้ ตอนคำพูดทิ้งท้ายของมันตอนพูดกับอาซึนะคือ "ฉันสามารถลบความทรงจำเธอได้" เห็นมั้ยไอ้เชี่ยนี่มันเลวบริสุทธิ์ยิ่งกว่าคายาบะเป็นล้านเท่า จบการสรุปจร้า
ผมรออ่านผลงานอยู่นะค้าบ
ตอบลบช่วยแปลต่อไปนะค้าบ เป็นกำลังใจให้
ผมอยากติดตามมาก ชอบเรื่องนี้มาก
อยากรู้ว่าไอ้โตะเราจะช่วยนางเอกได้อ่ะป่าว
สู้ๆค้าบ^^